Eagle Down – อินทรีปีกหัก หายนะครั้งใหญ่ของมหาอำนาจหมายเลขหนึ่ง ตอนที่ ๑๐

Great Depression (วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่) นั้นเป็นความขมขื่นและตราบาปที่สหรัฐอเมริกาไม่อยากจะพบเจออีกเลย ภาพที่นำเสนอนั้นเป็นภาพที่อเมริกันเองก็คงไม่นึกฝันว่ามันจะเกิดขึ้นในประเทศอันยิ่งใหญ่ ภาพของมารดาอเมริกันที่ต้องประกาศขายลูกของตนเอง เพราะประสบปัญหาวิกฤติทางการเงินจนเกินกว่าจะแก้ได้

ปัญหาของสหรัฐอเมริกาไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราเหมือนระยะทางระหว่างสองประเทศ อเมริกาและสยาม หากแต่วิกฤติ Great Depression (วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่) ในครานั้น ส่งผลร้ายต่อสยามเป็นอย่างยิ่ง มันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งส่งผลร้ายต่อเนื่องมาในสยามอีกยาวนานกว่า ๒๕ ปี ในวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหม่นี้ มันก็จะส่งผลต่อสยามอย่างรุนแรง ซึ่งข้าพเจ้าได้พยากรณ์ไว้ในตอนที่ ๖ ของบทความนี้ (ตอนที่ ๖ โพสในพันทิปเดือนสิงหาคม ๒๕๖๖ และมีแก้ไขภาพในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖) ใจความว่า

ขณะนี้กำลังจะถึงวัยของคราสราหู ๘ อีกครั้ง ซึ่งจะเริ่มในปลายพุทธศักราช ๒๕๖๖ และไทยจะต้องอยู่ในวัยราหู ๘ นี้ไปอีกแปดปีสี่เดือน หรือ หนึ่งร้อยเดือน จากสถิติที่ผ่านมา และหากดูดาวจรประกอบกับดวงฤกษ์ของกรุงเทพตามนิมิตแล้ว จะพบว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีอย่างมาก จะเกิดความแตกแยกในประเทศ และจะนำไปสู่เหตุการณ์ร้ายๆต่อไปได้ในอนาคต และสุมเสี่ยงต่อการเสียดินแดนของประเทศอีกครั้ง สำหรับเรื่องนี้จะได้วิเคราะห์กันในตอนต่อๆไป”

และในตอนที่ ๗ (ตอนที่ ๗ โพสในพันทิปเดือนกันยายน ๒๕๖๖) ใจความว่า

ราชอาณาจักรไทย จะเข้าสู่วัยของคราสราหู ๘ ในวันที่ ๒๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ คริสต์ศักราช 2023 เรียกว่าจะเปลี่ยนเข้าวัยใหม่ก่อนสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะไล่ตามมาติดๆ สาธารณรัฐประชาชนจีนนั้นจะเปลี่ยนเข้าสูวัยของดาวศุกร์ ๖ อันมีกำลังเป็นมหาอุจ ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ คริสต์ศักราช 2024 และสุดท้ายคือสหรัฐอเมริกาจะเปลี่ยนเข้าสู่วัยของดาวเสาร์ ๗ กาลกิณี ในวันที่ ๘ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๙ คริสต์ศักราช 2026

ราชอาณาจักรไทยนั้นจะเปลี่ยนวัยจากวัยพฤหัสบดี ๕ อันเป็นวัยที่ดีที่สุดวัยหนึ่ง ซึ่งพิสูจน์มาห้าครั้งแล้วว่าเป็นวัยที่ประเทศก้าวหน้า พัฒนา ไปสู่วัยของคราสราหู ๘ ซึ่งพิสูจน์มาแล้วเช่นกันว่าเป็นวัยที่มีปัญหา เป็นวัยของความแตกแยก เราจะต้องอยู่ในวัยของคราสราหู ๘ นี้ไปอีกแปดปีกว่า ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวหากพิจารณาดาวที่โคจรกับดวงฤกษ์ของกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ หรือดวงประเทศแล้ว ก็พบว่าเป็นช่วงที่จะมีปัญหามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเงิน”

ข้อความทั้งหมดนี้พยากรณ์ไว้ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๖ และบัดนี้ถึงกำหนดของดาวและคราสที่ต้องทำงานแล้ว เวลาที่ดาวและคราสโคจรในจักราศีนั้นคำนวณได้จากสูตรคำนวณของนาซ่า อ้างกันแบบนี้ดื้อๆเลย เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ฝรั่งเขาทำสูตรคำนวณดาวและคราสเอาไว้ให้ และเป็นสูตรที่นาซ่าใช้ด้วย หมอดูก็อ้างเอาดื้อๆแบบนี้แหละ น่าหมั่นไส้ดี

การเงินของสยามประเทศในวันนี้ (พฤษภาคม ๒๕๖๘ เดือนปีที่โพสบทความตอนที่ ๑๐ นี้) เป็นอย่างไรท่านๆก็เห็นกันดี ในระยะสองปีที่ผ่านมา รัฐบาลของสยามได้ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ โดยการนำเงินของประเทศมาแจกหว่านไปทั่ว โดยอ้างว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มันได้ผลอย่างไรท่านๆก็เห็นกันอยู่ ผลจากความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงานนั้น ทำให้ภาวะเศรษฐกิจของสยามตกต่ำลง ข้าวของแพงขึ้น คนตกงาน วิกฤติเกิดขึ้นไปทั่ว ตลาดหุ้นตกต่ำ และทองคำซึ่งเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจตัวหนึ่ง มีราคาพุ่งสูงขึ้นจนสร้างสถิติใหม่นับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งราคาทองคำนี้ข้าพเจ้าได้พยากรณ์ไว้ในบทความนี้ตอนที่ ๘ (ตอนที่ ๘ โพสในพันทิปเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖) แล้วว่า

ภาวะเศรษฐกิจโลกนั้นกำลังย่ำแย่ถดถอย ตามชื่อของบทความนี้ก็คือหายนะของมหาอำนาจหมายเลขหนึ่ง ซึ่งเมื่อมหาอำนาจหายนะ ประเทศที่ไร้อำนาจอย่างบ้านเรา ก็ไม่มีทางหนีพ้นหายนะไปเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากราคาทองคำที่พุ่งทะยานขึ้นรอรับหายนะล่วงหน้าแล้ว ทองคำนั้นมีหลักการพยากรณ์เกี่ยวกับราคาในทางโหราศาสตร์ สามารถพยากรณ์ได้จากดาวดวงหนึ่ง ซึ่งราคาขณะนี้จะผันผวนแต่ไม่ตกลงไปมากนัก และในปีหน้าจะทำสถิติใหม่ให้ได้ตื่นเต้นกันอีกครั้ง และจะยังไม่ใช่ครั้งสุดท้ายในช่วงก่อนมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งจะเข้าสู่หายนะด้วย”

ขณะนี้สหรัฐอเมริกาได้ประกาศสงครามทางการค้าอย่างไม่มีรูปแบบ คือประกาศวันหนึ่ง ชะลอมาตรการวันหนึ่ง และยกเลิกบางอย่างในอีกวันหนึ่ง และจะทำอะไรในวันต่อๆไปก็ไม่มีใครเดาถูก แต่ที่แน่ๆคือสยามประเทศเจ๊งล่วงหน้ารอวันฉิบหายขนาดใหญ่ในเวลาไม่นานนี้ สิ่งที่หลายๆท่านอยากทราบว่ามันจะมาเมื่อไร ก็ต้องตอบว่ามันมาแล้ว แต่มันจะหนักเมื่อไร นี่เป็นเรื่องที่จะได้พยากรณ์กันต่อไป แต่บอกได้คร่าวๆไว้อย่างหนึ่งว่า

เงินหนึ่งบาทในกระเป๋าเงินของท่านในวันนี้ หากเหลือมูลค่าได้ถึง 50 สตางค์เมื่อพ้นภาวะวิกฤติเศรษฐกิจคราวนี้ ก็ถือว่าโชคดีมากกกกกกก นั่นหมายความว่าหากท่านมีเงินเก็บออมเอาไว้สักหนึ่งล้านบาท สามารถซื้ออะไรได้ในราคาหนึ่งล้านบาทเช่นกันในวันนี้ เมื่อพ้นวิกฤติเศรษฐกิจในคราวนี้ ท่านจะซื้อสิ่งของนั้นได้เพียงจำนวนครึ่งเดียว หรือมองอีกมุมหนึ่งเงินหนึ่งล้านบาทของท่านจะมีมูลค่าเหลือไม่ถึงห้าแสนบาทในอีกไม่นานวันข้างหน้า”

พยากรณ์ไว้ให้สยองขวัญกันเลยทีเดียว และไม่ได้ขู่เล่นๆ แต่เหตุนี้มันเห็นๆกันเต็มตาอยู่แล้ว หากยังประมาทไม่เชื่อ และยังคงไม่เตรียมตัวรับวิกฤติในครั้งนี้ ถึงเวลานั้นอาจจะหัวร่อมิได้ร้องไห้มิออก กันเลยทีเดียว

ทีนี้ในเมื่อเงินบาทมีแนวโน้มจะหมดค่า เราๆท่านๆจะทำอย่างไรดีกับเงินที่มีอยู่ หากเป็นคนประเภทเบี้ยน้อยหอยน้อย ก็คงมิกระไรนักหนา หามาได้ก็ใช้หมดไปอยู่แล้ว ไม่ทันได้ถือครองเก็บงำให้มันด้อยค่าลงไปได้ หาเช้ากินค่ำค่าของเงินคงยังมิทันตก ก็ถือว่าโชคดีไป จะยากลำบากอีตรงในภาวะวิกฤติ มันจะไม่มีที่ให้หาเงิน

ส่วนท่านที่มีเงินสะสมเอาไว้มากๆ ก็สมควรจะหาทางเปลี่ยนมันเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงมากกว่า เช่นทองคำ แต่ราคาทองคำวันนี้มันน่าสยองขวัญเป็นยิ่งนัก โบราณท่านสอนว่า “เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร” แต่ในวันนี้สาวๆคงจะต้องบอกว่า “มีทองเท่าหัว เตะผัวตกกระได” เพราะทองมันช่างแพงเหลือที่จะซื้อไหว ดังนั้นท่านจะรักษามูลค่าของเงินได้อย่างไร ก็ลองคิดๆกันดูเถิด

แต่ข้าพเจ้าได้เตือนเอาไว้ถึงเงินอีกหนึ่งประเภท นั่นคือเงินดิจิตอลที่ไม่มีรัฐใดรับรองมูลค่า หรือที่เรียกกันว่าคริปโตเคอร์เรนซี่ ซึ่งได้อธิบายไว้ในบทความนี้ตอนที่ ๗ (ตอนที่ ๗ โพสในพันทิปเดือนกันยายน ๒๕๖๖) ความว่า

ในช่วงวัยของดาวอาทิตย์ ๑ นี้ จะเห็นความผันผวนของราคา มีทั้งทะยานขึ้นสูงเกินกว่าที่คาดคิด และมีภาวะตกต่ำลงมาจนน่าตกใจ สภาพไม่แน่นอนแบบนี้คือสภาพของมหาจักร แต่ถึงกระนั้น cryptocurrency นี้ก็ยังคงเอาตัวรอดมาได้

เหตุที่นำเสนอเรื่องของบิตคอยน์ไว้ในบทความนี้ ก็เนื่องมากจากมันมีความเกี่ยวพันกัน และช่วงเวลาตรีวัยของบิตคอยน์นั้นสอดคล้องและสัมพันธ์กับตรีวัยของสหรัฐอเมริกา วัยต่อไปของบิตคอยน์ซึ่งจะเปลี่ยนในปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ นั้น ใกล้เคียงกับการเปลี่ยนวัยของสหรัฐอเมริกามาก และวัยต่อไปของบิตคอยน์นั้นจะเป็นวัยของดาวอังคาร ๓ อันมีสถานะที่ไม่ดีในดวงฤกษ์ ดูจากแผนภูมิในรูปจะเห็นว่าอยู่ในช่วงตกต่ำ อีกทั้งเมื่อผ่านวัยของดาวอังคาร ๓ แล้วก็จะต่อด้วยวัยของดาวพุธ ๔ อันมีสถานะเป็นกาลกิณี

ดวงฤกษ์ของบิตคอยน์จึงต้องผจญกับภาวะวัยที่ไม่ดีถึงสิบหกปี และบิตคอยน์นั้นหากจะพูดในภาษาวัยรุ่น ก็อาจจะกล่าวได้ว่า เป็น cryptocurrency ตัวแม่ หากเกิดวิกฤติใดๆกับ cryptocurrency รายนี้ มันจะส่งผลถึง cryptocurrency รายอื่นๆอย่างแน่นอน จะหนักหนาปานใดนั้น อีกไม่นานก็จะได้เห็นกัน”

ดังนั้นไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงทรัพย์เงินบาทของท่านเป็นอะไรก็ตาม ขอให้ยกเว้นเงินดิจิตอลแบบนี้ไว้สักหนึ่งอย่าง เพราะทันทีที่สหรัฐอเมริกาถึงกำหนดร่วงจากฟากฟ้า เมื่ออินทรีปีกหัก ก็จะได้เห็นเงินของซาโตชิ ร่วงหล่นลงดินเฉกเช่นเดียวกัน

และในวันนั้น ลางทีเราอาจจะได้เห็นความจริงกันเสียทีว่า cryptocurrency ที่หาเจ้าของไม่ได้ แต่กลับอยู่ยงคงกะพัน ไม่ว่าจะเป็น CIA KGB MOSSAD MI6 JAMES BOND JASON BOND และสารพัดหน่วยสืบราชการลับในโลกนี้ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นของใครนั้น มันไม่รู้กันจริงๆหรือ หรือขาใหญ่ที่เป็นเจ้าของ ก็คือพวกนี้นั่นเอง

ในตอนหน้ามาว่ากันด้วยเรื่อง สยามจะร่วงขนาดไหนและเมื่อไร

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *