ทักษา คืออัฐเคราะห์หรือดาวพระเคราะห์ 8 ดวง ที่ครองเรือนในจักราศี ประกอบด้วย อาทิตย์ ๑ จันทร์ ๒ อังคาร ๓ พุธ ๔ พฤหัสบดี ๕ ศุกร์ ๖ เสาร์ ๗ และคราสราหู ๘ อธิบายมากไปก็จะกลายเป็นตำราโหราศาสตร์ อ่านแล้วปวดหัว แต่จะสรุปว่าดาวและคราสทั้งแปดนี้ จะมีตำแหน่งตามวันเกิดโดยเรียงดังนี้ บริวาร อายุ เดช ศรี อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี
ในดวงชะตาทุกดวง เมื่อเกิดวันใดในสัปดาห์ ก็ให้นับที่ดาวนั้นเป็นบริวาร และไล่ตามลำดับในตารางทักษาวนตามเข็มนาฬิกา จนถึงกาลกิณีเป็นสุดท้าย
และสุดท้ายนี่เองที่ร้ายกาจที่สุด ในดวงชะตานั้นดาวใดก็ตามเป็นกาลกิณี ก็จะเป็นดาวที่ทำร้ายดวงชะตานั้น จะทำร้าย ทำลาย หรือก่อให้เกิดความฉิบหายวายวอดอย่างไร ก็อยู่ที่ตำแหน่ง สถานะ สภาพ และการส่งกำลังถึงจุดต่างๆ
ประเทศสหรัฐอเมริกาถือกำเนิดในวันพฤหัสบดี ๕ ในภาพที่แสดงตารางทักษา เมื่อนับที่ช่องของดาวพฤหัสบดี ๕ เป็นดาวบริวาร วนไปตามเข็มนาฬิกา ก็จะเห็นว่าดาวกาลกิณีของประเทศสหรัฐอเมริกาคือดาวเสาร์ ๗
ตำราทักษานี้มีใช้แต่ในโหราศาสตร์ไทย ถือกันว่าเป็นเพชรน้ำเอกเม็ดหนึ่งของวงการโหราศาสตร์ไทย
ตรีวัยก็เป็นเพชรน้ำเอกอีกเม็ดหนึ่ง ไม่ได้สำคัญด้อยไปกว่าทักษาเลย ตรีวัยประกอบด้วยการนับเรือนชะตาตามหลักการในตารางนี้
ท่านที่ไม่ได้ศึกษาโหราศาสตร์คงปวดหัวไม่น้อย เพราะภาพจำของดวงชะตาอันประกอบด้วยช่อง 12 ราศีและตัวเลขไทย 10 ตัว มันดูเหมือนอะไรที่ง่ายๆ และเป็นที่น่าสงสัยว่าหมอดูเอาอะไรมาอ่านเรื่องราวได้เป็นคุ้งเป็นแคว ชัวร์หรือมั่วนิ่ม
ดูคล้ายๆโน้ตดนตรีที่มีเพียง 7 เสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ที แต่เมื่อนำโน้ตทั้ง 7 ตัวนี้มาเรียบเรียงเป็นเพลง ก็สามารถสร้างเพลงได้นับแสนนับล้านจนถึงไม่มีที่สิ้นสุด
แต่สรุปใจความได้สั้นๆจากที่พยายามอธิบายมาว่า ดาวเสาร์ ๗ เป็นดาวกาลกิณีของดวงชะตาประเทศสหรัฐอเมริกา และดาวเสาร์ ๗ นั้นจะมีอิทธิพลต่อดวงชะตานี้ในช่วงอายุที่ดาวเสาร์ ๗ เป็นเจ้าวัยตามตารางตรีวัย ซึ่งอยู่ในวัยที่ 4 ของดาว ๑ ลัคนา และวัยที่ 7 ของดาวอังคาร ๓ ตนุเศษ โดยหลักการสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ในการพยากรณ์จะใช้ตรีวัยของดาวตนุเศษเป็นหลัก
ตนุเศษ คือการคำนวณหาดาวพิเศษดวงหนึ่งจากดาวในดวงชะตา ขอไม่อธิบายในตรงนี้ แต่บอกไว้ว่าตนุเศษนี้ก็มีใช้เฉพาะในโหราศาสตร์ไทยเท่านั้น วิธีคำนวณตนุเศษนักศึกษาวิชาโหราศาสตร์จะทราบกันดี ในดวงชะตาของสหรัฐอเมริกา เมื่อคำนวณแล้วดาวตนุเศษคือดาวอังคาร ๓ ซึ่งสถิตอยู่ในราศีตุลย์
เมื่อดูตามตารางตรีวัยของราศีตุลย์ อันเป็นราศีที่ดาวอังคาร ๓ ตนุเศษของดวงชะตาประเทศสหรัฐอเมริกาสถิตอยู่ ก็จะพบว่าดาวเสาร์ ๗ กาลกิณีจะมีอิทธิพลในช่วงอายุ 75 ปี จนถึง 83 ปี 4 เดือน และเนื่องจากดวงชะตาของประเทศนั้นมีอายุเกินหนึ่งศตวรรษหรือ 100 ปี เมื่อนับวัยจนครบ 12 วัย 100 ปีแล้ว ก็ให้นับวนมาที่วัยที่ 1 ใหม่ เช่นนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ว่าอายุของดวงชะตาประเทศนั้นจะมีอายุยืนยาวเพียงไร
ดังนั้นในช่วงอายุ 75 – 83.4 ปี 175 – 183.4 ปี 275 – 283.4 ปี และต่อไปในทุกศตวรรษ ดวงชะตาของประเทศสหรัฐอเมริกาจะถึงคราวเคราะห์ร้ายด้วยดาวเสาร์ ๗ กาลกิณีครองวัยหนึ่งหน ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับดวงชะตาของประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เพราะมันเกิดกับทุกประเทศ เกิดมาแล้วหลายครั้งหลายครา ซึ่งจะได้นำตัวอย่างมาให้ดูกันต่อไป
คราวนี้เราจะมาดูกันว่า ในช่วงดาวเสาร์ ๗ กาลกิณีครองวัยนั้น ประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว
จากแผนภูมิที่นำเสนอต่อไปนี้ เป็นแผนภูมิที่สร้างจาก ดวงชะตา ตรีวัย และทักษา ของประเทศสหรัฐอเมริกา อธิบายโดยคร่าวๆว่า เส้นแผนภูมิในทางบวกนั้นคือจังหวะเวลาที่ดี และเส้นแผนภูมิในทางลบนั้นเป็นจังหวะเวลาที่ไม่ดี
ในแต่ละช่วงของแผนภูมิประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ตัวอย่างเช่นช่วงวัยแรกจะเป็นวัยศุกร์ ๖ซึ่งมีกำลังเพราะได้สถานะครึ่งเกษตร จะเห็นว่าเส้นแผนภูมิจะสูงไปในทางบวกและเป็นสีเขียว ซึ่งหมายถึงสถานะและทักษาที่ดี แต่ในบางช่วงจะมีเส้นสีแดงแทรกอยู่ นั่นคือช่วงที่ดาวศุกร์เจ้าวัยมีทักษาเป็นกาลกิณีของปีนั้นๆ ซึ่งเป็นช่วงไม่ดีที่แทรกเข้ามา ส่วนในวัยเช่น จันทร์ ๒ พุธ ๔ อาทิตย์ ๑ ซึ่งมีเส้นแผนภูมิอยู่ในช่องกลาง เพราะดาวเหล่านี้เป็นดาวปกติธรรมดา ไม่มีกำลังอะไรเป็นพิเศษ และเส้นสีแดงที่แทรกอยู่ในช่วงวัยนั้นๆ ก็คือสภาวะการเป็นกาลกิณีของดาวนั้นๆในปีนั้นๆ
ดวงชะตาของประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เมื่อพิจารณาจากแผนภูมินี้จะเห็นได้ว่า ไม่มีช่วงของตรีวัยหรือช่วงเวลาที่ตกต่ำเลย มีแต่ช่วงเวลาดีและปกติเท่านั้น สมแล้วกับเป็นดวงชะตาของประเทศมหาอำนาจ หากนี่เป็นดวงชะตาบุคคล ซึ่งได้อธิบายไปแล้วว่าเทียบได้กับผู้มีอันจะกิน ไม่ยากจน ในช่วงชีวิตนั้นมีแต่ช่วงที่ดีและเสมอตัว ไม่มีจังหวะตกต่ำอย่างมากเลย
แต่ในวัยกาลกิณี ซึ่งในแผนภูมิแสดงช่วงปีเดือนวันและดาวเสาร์ ๗ เจ้าวัยไว้ด้วยสีแดง เป็นจุดอ่อนของดวงชะตา ดาวเสาร์ ๗ กาลกิณีของสหรัฐอเมริกานั้น เป็นดาวที่ไม่มีตำแหน่งอะไรเป็นพิเศษ เป็นดาวธรรมดาๆ ดังนั้นในช่วงเวลานั้นทำได้อย่างดีเพียงเสมอตัว หากมีดาวร้ายโคจรมาทำร้ายดวงชะตา ก็ไม่มีพลังอะไรจะไปรับได้ ย่อมต้องรับกรรมไปตามวาระนั้นๆ
ในแผนภูมิได้เขียนเหตุการณ์สำคัญที่เคยเกิดขึ้นในวัยเสาร์กาลกิณี ในสองศตวรรษของอายุประเทศสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมา ในครั้งแรกที่ผ่านวัยกาลกิณีนี้ คือในช่วงปี ค.ศ. 1826 – 1834 อเมริกาประสบปัญหาวิกฤติทางการเงินที่เรียกว่า Panic of 1826 ส่วนในครั้งที่สองนั้นคือในช่วงปี ค.ศ. 1926 – 1934 อเมริกาประสบปัญหาวิกฤติทางการเงินที่เรียกว่า The Great Depression ซึ่งวิกฤติทางการเงินครั้งนี้เกิดในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ผลกระทบของวิกฤติในสหรัฐอเมริกาครั้งนั้น ส่งผลต่อประเทศไทยด้วยอย่างรุนแรง ราชการต้องดุลย์ภาพการเงินของประเทศด้วยการปลดข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก และเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ร้ายในเวลาต่อมา
จะเห็นได้ว่าในวัยกาลกิณีของสหรัฐอเมริกาทั้งสองครั้งที่ได้ผ่านมาแล้ว ประเทศนี้ได้ประสบปัญหาทางการเงินขนาดใหญ่ทั้งสองครั้ง ซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แต่ในดวงชะตาของประเทศอื่นๆ รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย ในวัยกาลกิณีของดวงชะตาประเทศนั้น จะประสบปัญหาร้ายแรงขนาดใหญ่ขึ้นมาได้เสมอ ร้ายแรงมากหรือน้อย เหตุที่เกิดจะเกี่ยวกับอะไร ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาวจรและทักษาของดาวในดวงชะตาและทักษาของดาวจรในเวลานั้น
และหลังจากผ่านวัยกาลกิณีไปแล้ว สหรัฐอเมริกาก็ต้องเข้าสงครามใหญ่ในทั้งสองช่วงศตวรรษ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ ดวงดาวจะบอกอนาคตได้จริงหรือไม่ คราวนี้จะมีตัวอย่างให้ได้พิสูจน์กัน
เพื่อให้เห็นความร้ายแรงของวัยกาลกิณี จึงจะต้องยกดวงชะตาประเทศมาให้ดูสักสามประเทศ อันประกอบด้วย ศรีลังกา ประเทศที่พึ่งประสบปัญหาล้มละลายทางการเงินไปเมื่อเร็วๆนี้ ต่อด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเคยผ่านวัยกาลกิณีมาแล้วเช่นกัน และสุดท้ายคือประเทศไทยอันเป็นที่รักของคนรักบ้านเมืองทั้งหลาย ซึ่งเคยผ่านวัยกาลกิณีนี้มาแล้วอย่างโชกโชนเช่นกัน
ขอรำพึงไว้ตรงนี้ว่า การเขียนบทความทางโหราศาสตร์ โดยพยายามไม่ให้เป็นโหราศาสตร์นั้น ยากนักหนา การทำตัวอย่างภาพ ตัวอย่างดวงชะตา จำต้องเขียนโปรแกรมสำหรับคำนวณทางโหราศาสตร์เป็นการเฉพาะในแต่ละเรื่อง มิได้วาดเขียนด้วยมือหรือใช้โปรแกรมวาดภาพใดๆ มันจึงยากเย็นแสนเข็ญยิ่งนัก ผลงานจึงออกมาได้ช้าราวกับเต่าล้านปีเดิน
แต่เนื่องด้วยเหตุคราวนี้จะเป็นเหตุใหญ่ อันกระทบกระเทือนถึงผู้คนแทบทุกคน รวมทั้งวิกฤติในประเทศไทยของเราเองก็กำลังจะเริ่มต้นแล้วเมื่ออ่านจากดวงชะตาประเทศ ซวยคราวนี้อาจจะถึงกับฉิบหายกันเป็นวงกว้าง ก็จะได้พยายามหาเวลามาเขียนบทความให้ได้เป็นแนวทางการเอาตัวรอดกัน
โปรดอดทนรอ
(จบตอนที่ 2)