สาธารณรัฐประชาชนจีน ถือกำเนิดด้วยวิธีการคล้ายคลึงกับประเทศสหรัฐอเมริกา นั่นคือมีการประกาศสถาปนาสาธารณรัฐคล้ายกับการประกาศอิสรภาพ โดยประวัติศาสตร์จีนบันทึกไว้ว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 (พ.ศ. ๒๔๙๒) เวลา 15.15 น. เหมา เจ๋อตง ผู้นำกองทัพแดงได้ประกาศก่อตั้ง “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ขึ้น ต่อหน้าฝูงชนกว่า 3 แสนคน ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน เนื่องจากปีที่จัดตั้งเป็นยุคที่มีความทันสมัยแล้ว มีการถ่ายภาพยนตร์เหตุการณ์ และมีหนังสือพิมพ์บันทึกรายละเอียดชัดเจน การสมผุสดวงฤกษ์นี้จึงทำได้ง่าย
ประธานเหมา เจ๋อตง ประกาศ “ในวันนี้สาธารณรัฐประชาชนจีนได้สถาปนาขึ้นแล้ว”
แต่อย่างไรก็ตาม ดวงฤกษ์หรือดวงชะตาทุกดวง เมื่อทำการสมผุสหรือผูกดวงชะตาแล้ว จะต้องทำการทดสอบ โดยพยากรณ์ย้อนหลังหรือที่เรียกกันว่าสอบทานดวงชะตา เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้องแล้ว เพราะดวงฤกษ์หรือดวงชะตานั้น เมื่อพยากรณ์อนาคตได้ก็ต้องพยากรณ์หรือบอกอดีตที่ผ่านมาได้เช่นกัน หลักการของโหราศาสตร์ข้อนี้สำคัญมาก บอกอดีตไม่ได้ก็บอกอนาคตไม่ได้
ในการทดสอบดวงฤกษ์ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็จะใช้วิธีอ่านดาวและอ่านตรีวัยโดยใช้ทักษาเป็นองค์ประกอบเช่นเคย ท่านที่พลาดการอ่านบทความในตอนที่หนึ่งและสอง โปรดย้อนกลับไปดูวิธีการได้
สาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อตั้งในวันเสาร์ ๗ ดังนั้นตามหลักทักษาแล้วดาวกาลกิณีของประเทศจีนคือดาวพุธ ๔ และลัคนาของประเทศอยู่ที่ราศีมังกร ดาวตนุเศษคือดาวเสาร์ ๗ สถิตในราศีธนู ตรีวัยที่จะใช้อ่านดวงฤกษ์นี้จึงจะใช้ตรีวัยของราศีธนูเป็นหลัก เนื่องจากการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนพึ่งผ่านมาได้ไม่ถึงหนึ่งศตวรรษหรือหนึ่งร้อยปี ดังนั้นแผนภูมิตรีวัยที่นำมาทดสอบจึงมีเพียงช่วงหนึ่งศตวรรษเท่านั้น (ดูภาพทั้งหมดในหน้าถัดไป)
การทดสอบเบื้องต้นก็จะดูที่สถานการณ์ในอดีตที่ผ่านมา วัยแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีนคือวัยพฤหัสบดี ๕ ครองวัยในช่วงพุทธศักราช ๒๔๙๒ ถึง ๒๕๐๑ ซึ่งดาวนี้มีกำลังเป็นครึ่งเกษตรและอุจจาวิลาส (คือไม่ต้องเข้าใจก็ได้สำหรับท่านที่ไม่ได้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ แต่มันหมายความว่าดาวนี้มีกำลังดี) การที่ดาวเจ้าวัยมีกำลังดีนี้ ส่งผลให้การสถาปนาสาธารณรัฐในช่วงแปดปีแรกเป็นไปได้ด้วยดี ถึงจะมีสงครามต่อเนื่องแต่ก็สามารถยึดพื้นที่และรวมประเทศได้ จนกระทั่งกองกำลังของพรรคก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้ต้องหลบหนีไปเกาะไต้หวัน
วัยที่สองคือวัยเสาร์ ๗ ครองวัยในช่วงพุทธศักราช ๒๕๐๑ ถึง ๒๕๐๙ ซึ่งดาวเสาร์ ๗ นี้ก็มีสถานะดี ดังจะเห็นได้จากเส้นแผนภูมิที่สูงไปทางบวก แต่เนื่องจากดาวเสาร์ ๗ มีคุณสมบัติทางโหราศาสตร์ว่า “โทษทุกข์” เป็นดาวบาปเคราะห์ที่ให้โทษ ให้ความยากลำบาก ในวัยเสาร์ ๗ นี้จึงเกิดภาวะอดอยากครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 55 ล้านคน เนื่องจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของพรรคคอมมิวนิสต์
วัยที่สามคือวัยพุธ ๔ กาลกิณี ครองวัยในช่วงพุทธศักราช ๒๕๐๙ ถึง ๒๕๑๗ ซึ่งดาวพุธ ๔ นี้ก็มีสถานะดี แต่เนื่องจากเป็นวัยกาลกิณีของดวงฤกษ์ ในวัยนี้เองได้เกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรมขึ้น ฟังดูก็เหมือนจะดีกว่าภาวะอดอยากครั้งใหญ่เป็นไหนๆ แต่จริงๆแล้วการปฏิวัติวัฒนธรรมของสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น คือความฉิบหายครั้งใหญ่ของประเทศ เกิดความแตกแยก เกิดสภาวะวุ่นวายไร้กฎหมาย ไร้คุณธรรม มันน่าจะเรียกว่าการทำลายวัฒนธรรมเสียมากกว่า เพราะหลังจากการปฏิวัติวัฒนธรรมแล้ว วัฒนธรรมก็แทบจะหายไปจากสังคมจีน ผู้คนขาดการเคารพนับถือกัน แม้แต่เติ้งเสี่ยวผิง มหาบุรุษของจีนในยุคต่อมา ก็แทบเอาชีวิตไม่รอดจากเหตุการณ์นั้น ผู้คนในยุคเก่าของจีนถูกคุกคาม วัตถุล้ำค่าถูกทำลาย สิ่งใดที่ถูกกล่าวหาว่าขัดขวางเส้นทางของพรรคคอมมิวนิสต์จะถูกทำลาย สิบปีแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรม ทำลายความชอบธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจนแทบจะย่อยยับ
เติ้งสี่ยงผิง พบ กิมย้ง และได้เอ่ยปากขอโทษที่กิมย้งสูญเสียบิดาไปจากเหตุการณ์ปฏิวัติวัฒนธรรม
เนื่องด้วยในรอบหนึ่งศตวรรษหรือหนึ่งร้อยปีของสาธารณรัฐประชาชนจีน จะต้องผ่านวัยพุธ ๔ กาลกิณีนี้ถึงสองครั้ง และครั้งที่สองก็คือในยุคปัจจุบันนี่เองระหว่างพุทธศักราช ๒๕๕๙ ถึง -๒๕๖๗ หากจะพิจารณาว่าเกิดเหตุอันใดกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในปัจจุบัน เมื่อมองสิ่งที่เขียนไว้ในแผนภูมิจะเห็นว่า สงครามการค้าของจีนอเมริกันนั้น เริ่มต้นขึ้นในวัยกาลกิณีครั้งที่สองในศตวรรษนี่เอง ผลร้ายของสงครามการค้าครั้งนี้ จีนถูกปิดกั้นจากเทคโนโลยีของตะวันตก การกีดกันทางการค้า การถูกข่มเหงจนถึงจับกุมตัวผู้นำในวงการอุตสาหกรรมใหญ่ของจีน ความเสียหายคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล
สองวัยพุธ ๔ กาลกิณีของสาธารณรัฐประชาชนจีน สามารถบอกเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับประเทศได้ รวมถึงเหตุการณ์อื่นๆที่สามารถอ่านได้ตรงกับแผนภูมิของตรีวัย ทำให้พอจะเชื่อได้ว่าดวงฤกษ์สาธารณรัฐประชาชนจีนนี้ถูกต้องใช้การได้แล้ว
ต้องอธิบายเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า การอ่านแผนภูมินี้เป็นเพียงภาพรวม การพยากรณ์ดวงชะตาอย่างละเอียดนั้นจะต้องดูดาวที่โคจรทำงานกับดวงฤกษ์หรือดวงชะตาในเวลานั้นๆด้วย แต่การอ่านภาพรวมนี้ก็เพื่อทดสอบดวงฤกษ์หรือดวงชะตาในภาพกว้างๆได้ เพราะวัยในตรีวัยที่ดีย่อมให้ผลรวมที่ดี และวัยในตรีวัยที่ไม่ดีก็ย่อมให้ผลรวมที่ไม่ดี
มีเรื่องที่จะให้สังเกตต่อไปว่า หลังจากเติ้งเสี่ยวผิงขึ้นครองอำนาจ มีการใช้นโยบายทางเศรษฐกิจใหม่ สาธารณรัฐประชาชนจีนก็เริ่มมั่งคั่งขึ้น จนกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกตามหลังสหรัฐอเมริกา ในดวงฤกษ์ของสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น ดาวศุกร์ ๖ อันหมายถึงเม็ดเงิน การเงิน มีสถานะเป็นมหาอุจ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีกำลังมากที่สุด อีกทั้งดาวศุกร์ ๖ ยังมีสถานะเป็นศรีในทางทักษา ในวัยศุกร์ ๖ มหาอุจวัยแรกของศตวรรษนั้น อยู่ในช่วงพุทธศักราช ๒๕๓๔ ถึง ๒๕๔๒ สาธารณรัฐประชาชนจีนได้รับเกาะฮ่องกงกลับคืนมาจากอังกฤษ และเศรษฐกิจของประเทศในวัยนั้นก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และในแผนภูมิตรีวัยของสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเห็นว่า คล้ายคลึงกับแผนภูมิตรีวัยของสหรัฐอเมริกาที่ได้นำเสนอไปแล้วประการหนึ่ง คือไม่มีวัยที่ตกต่ำเลย มีแต่วัยที่ดีและเสมอตัวเท่านั้น
ขอตั้งข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งเอาไว้ ในวัยศุกร์ ๖ มหาอุจที่ผ่านมาแล้ว สาธารณรัฐประชาชนจีนได้รับเกาะฮ่องกงคืนจากอังกฤษ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ สาธารณรัฐประชาชนจีนจะเข้าสู่วัยศุกร์ ๖ มหาอุจอีกครั้ง ในช่วงพุทธศักราช ๒๕๖๗ ถึง ๒๕๗๖ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมหรือไม่ สาธารณรัฐประชาชนจีนกำลังต้องการรวมเกาะไต้หวันเข้ากับการปกครองของแผ่นดินใหญ่ และจะได้คืนหรือไม่ เราจะมาพิจารณาดวงฤกษ์นี้กันในภายหลัง หลังจากได้นำเสนอดวงฤกษ์ของประเทศต่างๆที่ควรนำเสนอครบถ้วนแล้ว